“บิ๊กป้อม” ขอมาเลย์ช่วยสอบมือถือบึ้ม 7 จว.ใต้จ่อเอ็มโอยูร่วมคลุมชายแดนใต้-คมนาคม 9 ก.ย.นี้



เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียว่า การหารือเป็นไปด้วยดี ซึ่งมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของชายแดน โดยเน้นความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

 ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการสร้างรั้วบริเวณชายแดนนั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยจะมีการลงนามร่วมกัน อย่างไรก็ตามการสร้างรั้วชายแดนนั้นมีมานานแล้ว แต่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นส่วนระยะทางในการสร้างจะยึดตามของเดิม นอกจากนี้ จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ในเรื่องของอาชญากรรมข้ามชาติ เรื่องบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งทางประเทศมาเลเซียมีความเต็มใจที่จะช่วย แต่ก็ไม่อยากให้มีคนสองสัญชาติเหมือนกัน แต่ในขณะนี้ยังขาดเครื่องมือในการตรวจสอบ โดยเฉพาะเครื่องมือในการตรวจสอบใบหน้า ทั้งนี้ ในเรื่องของการลงนางบันทึกทั้งหมดจะลงนามร่วมกันในวันที่ 9 ก.ย. ที่นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ตลอดจนถึงเรื่องการคมนาคมและการพาณิชย์

 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังขอให้ทางมาเลเซียช่วยตรวจสอบเรื่องอุปกรณ์ของโทรศัพท์ ที่พบในเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งทางมาเลเซียมีความเต็มใจในการช่วยเหลือ ขณะนี้รอให้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ประสานงาน ความคืบหน้าของคดีนั้น ขอให้รอทางเจ้าหน้าที่ สำหรับความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขนั้นจะมีความแน่ชัดในวันที่ 2 ก.ย.นี้

 เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดตั้งโครงสร้างของครม.ส่วนหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวต้องการให้พื้นที่มีความสงบจึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งครม.ส่วนหน้า เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและจะทำให้นายกฯ สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น ในส่วนของศอ.บต. และกอ.รมน.ก็ยังมีอยู่ส่วนโครงสร้างของครม.ส่วนหน้านั้น ยืนยันว่ามี 10 คน ซึ่งไม่ได้มาจากข้าราชการประจำ แต่จะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่

cr khaosod